หนูเจอร์บิลหางอ้วนเป็นหนูเจอร์บิลขนาดกลาง ความยาวลำตัวประมาณ 10 ซม. (4”) ส่วนหางยาวประมาณ 5 ซม. (2”) หนูเจอร์บิลตัวนี้มีขนหนานุ่มฟู ผมที่ด้านหลังและศีรษะมีสีเหลือง มีสีเทาเข้มและปลายสีดำเล็กน้อย ท้องมีสีขาวใส เจอร์บิลหางอ้วนมีน้ำหนักระหว่าง 40 ถึง 120 กรัม ลำตัวกลมและแบนเล็กน้อย พวกเขาไม่มีคอที่ชัดเจนและใบหน้าที่แหลมคมมาก มีตาสีดำรูปไข่ขนาดใหญ่ หูของสายพันธุ์นี้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำซึ่งทำให้สายพันธุ์นี้มีหัวเหมือนสุนัขจิ้งจอก ขาค่อนข้างสั้น
พวกมันดูคล้ายกับหนูแฮมสเตอร์แคระแต่ต่างจากหนูแฮมสเตอร์ตรงที่พวกมันมีจมูกแหลมและมีหางอ้วนๆ เกือบหัวโล้น มีรูปร่างเหมือนไม้กระบอง ซึ่งพวกมันได้ชื่อสามัญว่า ‘หนูเจอร์บิลหางอ้วน’ เจอร์บิลหางอ้วนเก็บไขมันไว้ที่หาง เช่นเดียวกับที่อูฐเก็บไขมันไว้ที่โคก ดังนั้นหนูเจอร์บิลหางอ้วนที่แข็งแรงควรมีหางที่โค้งมนอย่างสวยงาม หางนี้ทำให้แยกแยะได้ง่ายจากเจอร์บิลสายพันธุ์อื่นๆ
อายุขัย
gerbil มีอายุขัยเฉลี่ยของระหว่าง 2 และ 4 ปี มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบคือ 7 ปี
โรคภัยไข้เจ็บ
หนูเจอร์บิลหางอ้วนที่แข็งแรงจะมีดวงตาที่สดใส มีชีวิตชีวา และมีขนที่อ่อนนุ่ม พวกเขาแห้งและสะอาด หนูเจอร์บิลหางอ้วนที่ป่วยจะเซื่องซึมและไม่มีชีวิตชีวา นอกจากนี้ หางของพวกมันก็อาจดูเหมือนกิ่ว การป้องกันโรคมักจะได้ผลดีกว่าการรักษา โดยเฉพาะหนูเจอร์บิลหางอ้วน การรักษามักจะเป็นเรื่องยาก เจอร์บิลหางอ้วนมีขนาดเล็กมากจนแม้แต่สัตวแพทย์ก็ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติต่อสัตว์อย่างไร การเป็นหวัดอาจถึงตายได้ แม้ว่าภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับหนูเจอร์บิลหางอ้วนคือลมและความชื้น ภาวะตัวร้อนเกินการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม และความเครียด อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องโรคของหนูเจอร์บิลหางอ้วน เพราะหนูตัวเล็กตัวนี้ไม่ได้ถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงมานานและบ่อยครั้ง แต่หนูตัวเล็กมักมีอาการป่วยเหมือนกัน โรคที่มักพบในหนูเจอร์บิลหางอ้วนคือแผลกัดที่หาง เนื่องจากการต่อสู้กับหนูเจอร์บิลหางอ้วนพยายามกัดหางหนาของกันและกัน ปัญหาเรื่องฟันก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน และอาจทำให้ตาเจ็บ น้ำหนักลด และการดูแลใบหน้ามากเกินไป